Tuesday, August 27, 2013

อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนอวสาน วันที่ 28 ส.ค. 56

อ่านละคร นางร้ายสายลับ ตอนอวสาน วันที่ 28 ส.ค. 56

กวินกลับไปที่กองถ่าย อายอดขอบคุณที่เขาเพิ่งเจอเรื่องร้ายๆ แต่ยังมีสปิริตมาช่วยงานจนจบ

แก้วดารายังหาเรื่องทับถมทำลายสุรีกานต์เพื่อเอาตัวรอด โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับนักค้ายาเสพติด พอกวินตอบโต้ปกป้องสุรีกานต์ก็ยังตะแบงอ้างรูปที่ตัวเองปล่อยออกไป จนเกี๊ยวกุ้งวิ่งหน้าตื่นเอารูปเนธานนอนอยู่กับเธอบนเตียงมาให้ดู พร้อมกับขอถอนตัวจากการเป็นผู้จัดการส่วนตัวเพราะสุดทนกับพฤติกรรมของเธอไม่ ได้อีกต่อไป

ส่วนวุ้นกรอบกับพายไก่ก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้หวังดีบอกที่อยู่ของสุรีกานต์ ที่ชายทะเลจึงรีบไปหา ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่างก็หันมองทีวีที่มีการแถลงข่าวของสารวัตรนฤเบศถึง ผลงานระยะสามเดือนที่ผ่านมาหลังการแถลงผลงาน สารวัตรนฤเบศกล่าวว่า “การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีไม่ได้ถ้าหากทางตำรวจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคนสำคัญคนหนึ่ง นั่นก็คือ คุณสุรีกานต์ อภิเดชดำรง สายลับสาวคนเก่งของเราครับ”

การแถลงข่าวของสารวัตรนฤเบศเป็นการกู้ภาพลักษณ์และสร้างเกียรติภูมิแก่สุรีกานต์ในสังคม เธอได้รับการยอมรับจากพลอยนิลที่เคยมีอคติจนตัดเพื่อนกัน อีกทั้งในวงการบันเทิงที่เธอได้ชื่อว่านางร้ายเบอร์หนึ่ง อายอดก็ให้วุ้นกรอบกับพายไก่มาตามตัวกลับไปเล่นละครในบทนางร้ายในจอ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้รับ รางวัล “ดาราต้นแบบความดี” ด้วย

สุรีกานต์กล่าวขณะขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีว่าตนได้รับรางวัลนี้จากการเป็นสายลับไม่ใช่ฐานะนักแสดง เธอพูดตบท้ายสร้างความประทับใจแก่ทุกคนอย่างมากว่า...
 “สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า โซ่ขอมอบรางวัลนี้ให้กับทุกคน ทุกอาชีพที่กำลังทำงานเพื่อประเทศชาติของเราอยู่ คุณคือฮีโร่ของทุกคนค่ะ”

นฤเบศปะปนอยู่ในกลุ่มผู้มาร่วมงาน เขามองเธออย่างชื่นชม นักข่าวถามสุรีกานต์ว่า เธอกำลังคบหาดูใจอยู่กับกวินใช่หรือไม่ และงานนี้ถือเป็นการเปิดตัวในฐานะคู่รักคู่ใหม่เลยใช่ไหม กวินตอบแทนเธอว่า

“ผมขอเคลียร์ตรงนี้เลยก็แล้วกันว่าเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นครับ”

“ใช่แล้วค่ะ โซ่กับคุณกวินเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ รับรองว่า โซ่ สุรีกานต์ พูดจริง ตอบจริง ไม่มีแอ๊บค่ะ”

กวินถามเธอขณะเดินคุยกันว่าทำไมเธอไม่บอกนักข่าวไปเลยว่ามีตัวจริงอยู่ แล้วจะได้เลิกจับคู่ให้เราเสียที เธอย้อนถามว่าตนมีที่ไหน กวินตอบยิ้มๆ อำๆ ว่า “ก็สารวัตรนฤเบศไงครับ” เธอบอกว่าเข้าใจผิด เราไม่มีอะไรกันสักหน่อย

“แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจไม่ผิดนะ...ถ้าคุณโซ่กำลังมีความรัก ผมว่าคุณโซ่ลองดูกับมันสักตั้งสิครับ”

“แล้วถ้าคนที่เรา...เอ่อ...รัก เขามีคนที่เขารักอยู่แล้วล่ะคะ” ย้อนถามเพราะยังปักใจเชื่อว่านฤเบศกับแพรไหมรักกัน

“เขาบอกคุณโซ่แบบนั้นเหรอครับ” กวินถามล้อๆ อย่างรู้แก่ใจดีว่าไม่ใช่ เพราะนับวันเขากับแพรไหมก็ยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น...มากขึ้น

ฝ่ายแพรไหมก็ช่วยลุ้นอีกทางหนึ่ง เธอได้ข่าวจากคุณพ่อเธอซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของนฤเบศว่าเขาจะไปดูงานต่าง ประเทศเป็นเวลาถึงสองปี เธอถามว่าไม่เป็นห่วงคนที่นี่หรือ เขาบอกว่าไม่มีใครให้ห่วง พอแพรไหมเอ่ยชื่อสุรีกานต์ นฤเบศพูดอย่างน้อยใจในทันทีว่า

“เขามีคุณกวินอยู่แล้วนี่ อย่าดึงพี่เข้าไปเกี่ยวเลย”

แพรไหมบอกว่าสุรีกานต์ไม่ได้ชอบกวินและกวินก็ไม่ได้คิดอะไรกับสุรีกานต์นอกจากคำว่าเพื่อน

ooooooo

สุรีกานต์เองก็เชื่อว่านฤเบศรักกับแพรไหม จนวันนี้เธอไปที่บ้านเขา เห็นกระเป๋าเดินทางจึงรู้ว่าเขาจะเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาสองปี เธอน้อยใจมากที่เขาไม่บอกกันสักคำ พอเขาจะชี้แจง เธอตัดบทว่า

“หยุด...พอ ไม่ต้องพูดอะไรอีก ในเมื่อคุณไม่เห็นว่าฉันสำคัญกับคุณเลย ฉันก็จะไม่สนใจคุณแล้วเหมือนกัน ฉันจะไม่ขอเห็นหน้าคุณอีก!” พูดแล้วรีบหันเดินออกไปไม่ให้เขาเห็นน้ำตาที่ท้นปรี่ขึ้นมา

นฤเบศวิ่งตามแต่สะดุดแจกันล้มแตกเศษกระเบื้องบาดเทา ทรุดกุมเท้าโอดครวญ

“โอ๊ย...อะไรเนี่ย ไม่คิดจะหยุดฟังกันก่อนรึไง”

ooooooo

เมื่อไม่มีโอกาสพูดกันดีๆ สารวัตรนักวางแผนปราบยาเสพติด จึงวางแผนง้อสาวอย่างแยบยล...

วันนี้ สุรีกานต์อยู่ในชุดแต่งงานกำลังถ่ายแบบกับนายแบบหนุ่ม พอถ่ายเสร็จมีสายโทร.เข้ามือถือ เธอรับสายแล้วตกใจ

“ฮัลโหล...อะไรนะจ่า!!” แล้วเธอก็วิ่งออกไปทั้งชุดแต่งงาน จนวุ้นกรอบกับพายไก่มองเหวอ ทีมงานก็พากันงง

ระหว่างเธอขับรถไปอย่างร้อนใจ ก็คร่ำครวญเสียงสะอื้น...

“สารวัตรบ้า!! ห้ามเป็นอะไรไปนะ ฉันไม่ยอมให้คุณทิ้งไปแบบนี้หรอก” แล้วจู่ๆก็มีรถคันหนึ่งขับมาปาดหน้าจนเธอต้องเบรกลั่น “โอ๊ย...ทำไมถึงได้ซวยแบบนี้เนี่ย คนยิ่งรีบๆอยู่ด้วย”

ชายคนขับลงจากรถมาเคาะกระจกฝั่งคนขับท่าทางเอาเรื่อง

“นี่คุณ ลงมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลย ทำผิดแล้วคิดจะชิ่งรึไง!”

สุรีกานต์อึ้ง...งัน เมื่อเห็นนฤเบศตัวเป็นๆ มายืนเคาะกระจก แล้วกลายเป็นโมโหที่ถูกหลอก ลงจากรถมาเผชิญหน้า

“ไหนจ่ายมบอกว่าคุณรถคว่ำ อาการสาหัสอยู่โรงพยาบาล แล้วนี่หมายความว่าไง คุณร่วมมือกับลูกน้องคุณมาหลอกฉันงั้นเหรอ เอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่นแบบนี้ ฉันไม่สนุกด้วยหรอกนะ”

นฤเบศขอโทษที่ต้องใช้วิธีนี้เพราะต้องการพิสูจน์ว่าถ้าตนกำลังจะตาย แล้วเธอจะรู้สึกอย่างไร

“ตอนนี้คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันรู้สึกยังไง งั้นฉันคงไปได้แล้วสินะ” พูดแล้วจะเดินหนี นฤเบศคว้ามือไว้อ้อนว่าเลิกงอนได้แล้ว ตนกำลังจะไปอยู่แล้วอยากให้ทุกอย่างจบแบบนี้หรือ “ยังไงคุณก็กำลังจะไปอยู่แล้ว ถ้ามันจะจบแบบนี้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่”

นฤเบศขอร้องให้เธอช่วยภารกิจสุดท้ายของทีมเดอะซันอีกสักครั้งได้ไหม เพราะภารกิจนี้ไม่มีเธอก็ไม่มีทางสำเร็จ

“เอาเป็นว่าฉันช่วยคุณก็ได้ ถือเป็นของขวัญสุดท้ายก่อนที่เราจะไม่ได้เจอกันอีก” พูดแล้วเดินเชิดไปที่รถ เหลือบมองนฤเบศแล้วบ่นอย่างผิดหวัง ...น้อยใจ... “อีตาบ้า แค่จะนัดออกมาขอให้ช่วยงานแค่นี้เนี่ยนะ ฮึ่ย!”

ฝ่ายสารวัตรหนุ่มมองสุรีกานต์แล้วยิ้มอย่างมีแผน

หลังจากนั้น เขาก็นำเธอเข้าสู่บรรยากาศการทำภารกิจครั้งสุดท้ายในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง ทั้งสองสวมบทบาทนักสืบอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง มีการสื่อสารกันทางหูฟังสายลับ โดยนฤเบศเป็นคนชี้เป้าหมายชายใส่ชุดดำให้เธอสะกดรอยตาม

สุรีกานต์ถูกหลอกให้ตามชายใส่ชุดดำไปจนเกือบประชิดตัว เธอเริ่มหวั่นไหวกลัวถูกจับได้ นฤเบศบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะทุกอย่างอยู่ในสายตาตน สุรีกานต์จึงค่อยๆ หันกลับมา ปรากฏว่าชายชุดดำมายืนอยู่จนเกือบประชิดตัว

“กลายเป็นนฤเบศ!”

“ทำบ้าอะไรเนี่ย นี่หรือภารกิจสุดท้ายของคุณ!” สุรีกานต์ทั้งโกรธทั้งงอน

นฤเบศอ้อนถามว่าเธอจะไปกับตนไหม ตนสามารถพาภรรยาหรือสายลับคู่หูไปได้หนึ่งคนและตนก็อยากให้เธอไปด้วยกัน เธอถามว่าแล้วจะให้ไปในฐานะอะไร

“สายลับคู่หู ที่เป็นภรรยาด้วยไง ถ้าคุณจะเมตตา” แล้วพาเธอไปดูต้นแอบรักในกระถางที่วางเต็มท้ายรถกระบะ “พวกมันเป็นของคุณทั้งหมด แล้วก็เป็นของคุณคนเดียว...ตกลงว่าไง คุณจะไปกับผมไหม”

สุรีกานต์พยักหน้ายิ้มดีใจ นฤเบศจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเธอถามอย่างมีความหมายว่า

“แล้วต้นแอบรักพวกนี้ล่ะ คุณจะดูแลมันได้ หรือเปล่า”

“ได้สิ ก็มันเป็นของฉันแล้วนี่...รวมทั้งตัวคุณด้วย”

นฤเบศดีใจสุดๆ ดึงร่างเธอเข้าไปกอดไว้แนบแน่นอย่างมีความสุข...

ooooooo

–อวสาน–

1 comments:

Followers