Tuesday, August 27, 2013

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. 56

อ่านละคร ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 2 วันที่ 28 ส.ค. 56

“ผมไม่รู้ว่าคุณไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน แต่ที่นี่เป็นวัง เป็นสถานที่อันทรงเกียรติคุณไม่สมควรทำกิริยาที่ดูไม่งามแบบนั้น”

ประกายดาวอ้าปากหวอเถียงไม่ออก ชายหนุ่มส่ายหัวเอือมๆก่อนจะเดินจากไป...ประกายดาวเซ็งนั่งบ่นทำไมซวยแบบนี้ คุณหญิงนิ่มเห็น ชื่นชอบเธออยู่แล้วจึงเข้ามาคุยด้วย ว่าตนไม่เชื่อข่าวที่ลง และพอได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอก็รู้ว่าตนคิดไม่ผิดจริงๆ ประกายดาวค่อยปลื้มใจ หวังว่าคุณหญิงนิ่มจะพูดให้จันทรภานุเข้าใจตนบ้าง
 เจ๊พีชแต่งหน้าให้กับหม่อมสุรีย์ พอได้เห็นเพชรจากร้านของศิวะก็ชมว่าสวยมาก คุณหญิงนิ่มเดินมากับจันทรภานุ เห็นศิวะก็สงสัยคงจะรู้ว่าประกายดาวมา จึงมาส่งเครื่องเพชรด้วยตัวเอง จันทรภานุแย้งว่าทั้งสองนัดกันมากกว่า

“ไม่จริงหรอกค่ะพี่ชาย หญิงว่าคุณประกายดาวไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น พี่ชายน่าจะได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเธอดู”...จันทรภานุเมินไม่คิดจะอ่าน

ระหว่างที่ประกายดาวตั้งกล้องจัดแสงไฟ เจ๊พีชก็ช่วยจัดท่าทางให้ทุกๆคน จันทรภานุประคองนมพรมาร่วมถ่ายด้วย คุณหญิงนิ่มอุ้มลูกสุนัขไว้บนตัก ห่างออกมาศิวะยืนมองเหมือนรอ ทำให้จันทรภานุมองประกายดาวอย่างดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น ประกายดาวจึงเข้าไปบอกศิวะว่า จะกลับไปหรือจะให้ตนโทร.ตามอรอุมามารับ ศิวะอึ้งรีบลากลับทันที
 พอประกายดาวจะเริ่มถ่าย เธอก็เห็นสายตาอำมหิตของจันทรภานุในกล้อง จึงบอกให้ช่วยยิ้มหน่อย เขากลับโต้ว่า ไม่อยากยิ้ม สร้างภาพไม่เก่ง ประกายดาวรู้ว่าแขวะตนจึงสวน

“นี่ไม่ใช่การสร้างภาพนะคะ หรือว่าคุณชายไม่มีความสุขที่ได้ถ่ายภาพกับครอบครัว”

มจ.สุริยะวรรตเอ็ดลูกชาย นมพรขอให้คุณชายยิ้มให้ตนชื่นใจ เขาจึงต้องฝืนยิ้มจนดูตลก ประกายดาวเผลอหัวเราะออกมา สุดท้ายบอกว่าเขาไม่ต้องยิ้มจะดีกว่า จันทรภานุรู้สึกอาย พอจะกดชัตเตอร์ ไฟที่จัดแสงดับขึ้นมา ทีเข้าไปขยับปลั๊ก เกิดช็อตเสียงดัง ทุกคนตกใจรวมทั้งเจ้าจีจี้สุนัขของคุณหญิงนิ่ม เกิดความโกลาหล ทุกคนต้องช่วยกันไล่จับจีจี้ที่ตื่นตกใจวิ่งพล่าน ไม่ว่าท่านชายหรือหม่อมสุรีย์...ประกายดาวกับจันทรภานุต่างไล่ตะครุบจีจี้ มากันคนละทางเกิดชนกันจันทรภานุพลัดตกสระตูม...

ภาพเหตุการณ์วัยเด็กของเขาผุดขึ้น ครั้งที่เขาจมน้ำเกือบตาย ทำให้เขากลายเป็นคนกลัวน้ำ ประกายดาวแปลกใจที่จันทรภานุไม่ขึ้นมาเหนือน้ำเสียที เสียงนมพรร้องว่าคุณชายว่ายน้ำไม่เป็น ประกายดาวตกใจกระโดดลงไปช่วยเขาทันที...เอาตัวขึ้นมาได้ เขาหมดสติไม่ฟื้น ประกายดาวตัดสินใจผายปอด เม้าท์ทูเม้าท์ จนเขาสำลักน้ำออกมา ทุกคนโล่งอก

พอจันทรภานุฟื้นขึ้นมา เขาก็โทษว่าตนโชคร้ายทุกทีที่เจอประกายดาว คุณหญิงนิ่มรีบบอกว่าประกายดาวเป็นคนช่วยชีวิตเขา

ooooooo

จิตสุภางค์ ัฟงเรื่องที่ประกายดาวเล่าแล้วบ่นว่า เพอร์เฟกต์ขนาดนั้นไม่น่าว่ายน้ำไม่เป็น ประกายดาวเห็นใจเพราะคุณหญิงนิ่มเล่าว่า เขาเคยจมน้ำตอนเด็กเกือบเอาชีวิตไม่รอด จิตสุภางค์แนะนำประกายดาวเข้าทางจันทรภานุไม่ได้ ก็ให้เข้าทางคุณหญิงนิ่มแทน

วันรุ่งขึ้น ประกายดาวจึงแวะมาที่ร้านคุณหญิงนิ่ม เธอดีใจมากให้เลือกของในร้านได้ฟรีถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตจันทร ภานุ แต่ประกายดาวไม่รับ กลับชวนคุยถึงการโปรโมตร้านลงหนังสือหรือถ่ายปกแฟชั่นสินค้าลงในนิตยสาร คุณหญิงนิ่มเปรยคงใช้เงินไม่น้อย

“เอาอย่างนี้ เพื่อเป็นการเซฟคอร์ส ดาวจะจัดการเรื่องถ่ายแฟชั่นให้ฟรี ส่วนหนังสือที่จะลงโฆษณา ดาวจะให้คนทำมีเดียที่รู้จัก มาช่วยแนะนำให้ ลองคิดดูนะคะ”

คุณหญิงนิ่มสนใจ เอาความคิดนี้มาปรึกษาจันทรภานุ พอเขารู้ว่ามาจากไอเดียของประกายดาวก็ตั้งแง่ไม่ไว้ใจ คุณหญิงนิ่มรู้ว่าเขาไม่ชอบประกายดาว จึงเอาบทสัมภาษณ์ให้อ่าน พอเขาอ่านจบก็หาว่าเธอโกหกอีก บอกคุณหญิงนิ่มอย่าเพิ่งทำอะไร ตนจะสืบให้รู้ก่อนว่าประกายดาวเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือไม่

ด้านศิวะ หวังจะคืนดีกับประกายดาวถึงขนาดแอบขโมยสร้อยเพชรในร้านจะเอาไปให้เธอ อรอุมาแอบเห็น โทร.บอกรติรสให้สะกดรอยตามดู...ศิวะมาหาประกายดาวที่คอนโดฯ เคาะห้องเท่าไหร่เธอก็ไม่เปิดประตูรับ เขาบอกว่าเอาสร้อยเพชรมาฝาก ประกายดาวมองผ่านตาแมวแล้วบอกว่า ตนมีปัญญาซื้อเองได้ ศิวะอ่อนใจกลับออกมา ไม่เห็นรถของรติรสที่จอดมองอยู่

คืนนั้น ศิวะนัดพบกับรติรสที่โรงแรมตามเคย รติรสโกรธต่อว่าที่เขาเอาสร้อยเพชรไปให้ประกายดาว ศิวะตกใจที่เธอรู้ เธออ้างว่าอรอุมาเป็นคนบอก เขาจึงสวมรอยว่าเอาสร้อยเพชรมาฝากเธอต่างหาก รติรสหลงดีใจ สวมกอดเขาอย่างตื้นตัน

ooooooo

รุ่งเช้า มีคนมาเคาะห้องประกายดาว เธองัวเงียนึกว่าเป็นศิวะอีก แต่พอมองผ่านตาแมวแทบช็อก เพราะเป็นจันทรภานุ เธอตาสว่างทันทีบอกให้เขารอก่อน แล้วรีบไปล้างหน้ารวบผมออกมาต้อนรับเขา เห็นสีหน้าอำมหิตของเขาก็ทำใจดีสู้เสือ

“คุณชายทราบว่าฉันพักที่นี่ได้ไงคะ หรือว่า...” ประกายดาวคิดในใจ หรือเขาติดใจเม้าท์ทูเม้าท์ของตน จนสืบหาที่อยู่ เธอนึกไปถึงมารยาที่จิตสุภางค์สอนให้หัดใช้ จึงร้องขึ้นว่าระวังลื่น

จันทรภานุเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้อง ประกายดาวแกล้งลื่นล้ม ชายหนุ่มปรายตามองแล้วถาม ลงไปนั่งที่พื้นทำไม เธอทำหน้าเจื่อนๆอ้างว่าลื่นแล้วลุกขึ้นเอง จันทรภานุขอเข้าเรื่องเลย เขาเอาภาพในมือถือให้ดู เป็นภาพศิวะเดินเข้ามาในคอนโดฯเธอเมื่อคืน

“ศิวะ! เมื่อคืนนี้นี่นา...คุณชายอย่าหึงฉันนะคะ ฉันกับนายศิวะไม่ได้มีอะไรกัน”

“ผมไม่ได้หึงคุณ แล้วผมก็ไม่สนด้วยว่า คุณจะมีหรือไม่มีอะไรกับผู้ชายคนนี้”

“อ้าว...คุณไม่ได้สนใจฉันหรอกเหรอคะ”

“ผมไม่ไว้ใจคุณต่างหาก”

ประกายดาวงงว่าเรื่องอะไร จันทรภานุถามว่าเธอไปตีสนิทกับคุณหญิงนิ่มหวังอะไร ประกายดาวแก้ตัวว่าตนหวังดี แต่เขาสวนทันควันว่าไม่จริง เธอหวังเกาะคนรวยดัง เขามองรอบห้องพักเธออย่างเหยียดๆ ก่อนจะปรักปรำ

“ผมเข้าใจผิดตรงไหน ลูกคนขายข้าวขาหมูอย่างคุณ จะมีปัญญาหาเงินมาซื้อคอนโดฯห้องละหลายสิบล้านแบบนี้ได้ยังไง ถ้าไม่ได้หลอกคนอื่น”
ประกายดาวโกรธกำหมัดแน่น “คุณชายดูถูก

ฉันมากไปแล้วนะคะ ถึงป๊ากับม้าฉันจะเป็นคนขายข้าวขาหมู แต่ท่านทิ้งมรดกหลายร้อยล้านให้ฉันกับพี่ชาย เพราะร้านขายข้าวขาหมูของป๊าฉันได้กำไรวันละเป็นหมื่น ขายมาตลอด 50 ปี แต่ป๊ากับม้าฉันใช้เงินวันละไม่ถึง 100 บาท แถมยังมีมรดกเก่าจากอากงอาม่า เป็นที่ดินและเพชรนิลจินดา แล้วป๊าฉันยังถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อีก”

จันทรภานุถึงกับอึ้ง ประกายดาวยังแจงอีกว่าห้องนี้และของที่เห็นเป็นเงินป๊ากับม้า พูดจบเธอก็เชิญเขากลับไปได้ ชายหนุ่มหน้าชารู้สึกผิดแต่ยังวางฟอร์มกลับออกไป...ประกายดาวทั้งโกรธทั้ง หงุดหงิดหัวใจ มาบ่นกับจิตสุภางค์และมิลินทร์ ทั้งสองไม่พอใจไปด้วย ต่างยุให้เลิกสนใจคนไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างนั้น หันมามองพงศ์จันทรแทน

จู่ๆ คุณหญิงนิ่มโทร.เข้ามาเรียกไปคุยเรื่องโฆษณาแฟชั่นที่จะถ่ายให้ ทำเอาประกายดาวงง นึกว่าจันทรภานุเอาตนไปด่าจนเละให้เธอฟังแล้ว มิลินทร์สันนิษฐานว่าคุณชายอาจสำนึกผิด จิตสุภางค์ไม่อยากเชื่อ เป็นหน้าที่ประกายดาวที่จะตัดสินใจเอง ระหว่างที่ถกกันอยู่ เฮียเชาจับลูกสาวสามคนแต่งตัวน่ารักมาเดินโพสท่ากันใหญ่ จิตสุภางค์งงว่าสามีทำอะไร

“เฮียให้ลูกๆมาโพสท่า เผื่อจะเข้าตาดาว ได้ไปถ่ายแฟชั่นด้วยไง”

“เอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย งานแฟชั่นของไอ้ดาวมันต้องใช้นางแบบที่เป็นมืออาชีพ จะมายัดเยียดพวกกันเองได้ยังไง ใช่ไหมดาว...แต่ว่า แกไม่ลองให้ลูกๆฉันไปแสดงหน่อยล่ะ คิดค่าตัวราคาเพื่อนฝูง เผื่อมันจะดัง พ่อกับแม่จะได้เกาะลูกกิน ได้ไหมจ๊ะเพื่อน”

ประกายดาวยิ้ม...แล้วเธอก็เอาเด็กๆมาถ่ายโปรโมตสินค้าร้านคุณหญิงนิ่มในวันถัดมา

ooooooo

จิตสุภางค์มาช่วยแต่งตัวให้ลูกๆ ประกายดาวกับทีจัดเตรียมกล้อง จันทรภานุมายืนเมียงมองแต่ประกายดาวทำไม่สนใจเหมือนไม่มีตัวตนจนเขารู้สึก อึดอัด คุณหญิงนิ่มตำหนิจันทรภานุว่าเป็นคนผิดที่ไปดูถูกประกายดาว ฉะนั้นจึงควรขอโทษเธอ เขาจึงต้องมาเพื่อหาโอกาสขอโทษ

คุณหญิงนิ่มชมเด็กๆน่ารักมาก ประกายดาวให้ไปชมกับแม่เด็กเอง จันทรภานุสะอึกเมื่อรู้ว่าประกายดาวไม่ใช่แม่เด็กๆ เขายิ่งทนอึดอัดใจไม่ไหวจะกลับ คุณหญิงนิ่มต่อว่าเขาไม่เป็นสุภาพบุรุษเพราะเห็นอยู่แล้วว่าตัวเองผิดเต็มๆ ยังจะหนีอีก เขาจึงจำต้องอยู่ต่อ...เสร็จงานคุณหญิงนิ่มขอเลี้ยงอาหารทุกคนที่ร้านอาหาร แห่งหนึ่ง จันทรภานุจะขอตัว เธอกระซิบ

“หญิงไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าพี่ชายจะท้อเพราะผู้หญิง อย่างว่าแหละนะ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำกับพี่ชายแบบนี้มาก่อน พี่ดาวนี่สุดยอดจริงๆ”

“พี่ไม่ปลื้มด้วยหรอกนะคะ” จันทรภานุเคือง

“หญิงไม่แซวแล้วก็ได้ เดี๋ยวหญิงจะหาโอกาสให้พี่ชายเอง” ว่าแล้วเธอก็จัดที่นั่งให้สองคนนั่งใกล้กัน เพราะจิตสุภางค์ต้องนั่งกับลูกๆฝั่งหนึ่ง ตัวเธอนั่งหัวโต๊ะ

ประกายดาวแอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทีอึดอัดของจันทรภานุ เธอตั้งใจที่จะทำให้เขาเห็นว่ามีผู้หญิงที่ไม่สนใจเขา จึงทำทีขอตัวออกมาคุยโทรศัพท์ จันทรภานุตามออกไป จิตสุภางค์รีบส่งเมสเสจบอก ประกายดาวแกล้งคุยมือถือหันหลังให้

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ยังไงดาวก็ไปถ่ายให้ไม่ได้ ไม่ใช่ดาวไม่ว่างนะคะ แต่ไม่อยากไปถ่ายให้จริงๆ เพราะนายแบบขี้เก๊กมากๆ หน้าตาก็งั้นๆ นึกว่าตัวเองรวยแล้วงี่เง่า พูดจาน่าถีบตามด้วยเข่าตรงเป้าสักที ฝากบอกนายแบบปากปีจอคนนั้นด้วยนะ ว่าว่างๆให้เอาหมาออกจากปากบ้าง จะได้ไม่เห่าคนอื่นไปทั่ว...อะไรนะ จะให้กราบเท้าขอโทษเหรอ บอกคำเดียวว่าโนเวย์”

จันทรภานุรู้สึกว่าโดนด่ากระทบ จึงเข้าไปเอียงหูฟังข้างๆ แล้วพูดแทรกขึ้น “รู้สึกว่าฝั่งโน้นเขาจะวางหูแล้วนะครับ ผมไม่ได้ยินเสียงใครคุยด้วยเลย”

ประกายดาวสะดุ้ง ทำทีบอกว่าแค่นี้ก่อนนะ มีคนไม่มีมารยาทแอบฟังแล้วกดวางสายจะเดินไป จันทรภานุเข้ามาขวางหน้า “คุณประกายดาว ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“มีอะไรจะต่อว่าฉันอีกเหรอคะคุณชาย”

“ผมยอมรับว่าผมผิดที่พูดไม่ดีกับคุณ ผม...ผม... ขอโทษ”

ประกายดาวจ้องหน้า จนคุณชายต้องถามว่ามองหาอะไร เธอตอบกวนๆว่า “กำลังมองหาว่าส่วนไหนบนใบหน้าที่ให้ความรู้สึกแบบขอโทษจริงๆจากใจ ซึ่งยังหาไม่เจอเลย”

“จะต้องทำหน้าขนาดไหน ผมอุตส่าห์ขอโทษแล้วนะ”

“นั่นไง ชัดเลย ขนาดต้องใช้คำว่าอุตส่าห์ แสดงว่าคำขอโทษของคุณชายไม่ได้ออกมาจากใจ” ประกายดาวเดินเฉียดชายหนุ่มไปแบบไม่สนใจ
พอดีนันทินีเดินสวนมา ทั้งสองชะงัก นันทินีโวยทันทีว่า เพราะผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม เขาถึงไม่รับโทรศัพท์ตน จันทรภานุไม่รอช้า สวมรอยอยากให้นันทินีออกไปจากชีวิตเสียที

“ใช่ครับ เพราะกลัวดาวเขาจะหึง หาว่าผมมาคบกับนัน ทั้งๆที่ผมกับคุณดาวรักกันมากจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้...ดาวได้ยินแล้วนะ ว่าผมกับนันไม่มีอะไรกัน” เขาโอบประกายดาว

ประกายดาวอ้าปากค้าง นันทินีกางมือยกขึ้นเกร็งๆ ประกายดาวรีบดักคอ “คุณนันคะ อย่าร้องกรี๊ดๆแล้วตบดาวนะ มันเป็นนิสัยของนางอิจฉาในละครไทย ดาวมองดูลักษณะแล้ว คุณนันไม่ใช่นางอิจฉาแน่นอน แต่ถ้าเกร็งมือขนาดนี้แล้วแปลว่าต้องตบ...ดาวอนุญาตให้ตบแฟนดาว”
จันทรภานุถามว่าอะไรนะ ประกายดาวดันเขาออกหน้า จังหวะนั้นนันทินีฟาดมือลงมาพอดี โดนหน้าจันทรภานุเต็มๆ นันทินีหน้าซีดเผือดรีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพย

ประกายดาวเดินกลับมาที่โต๊ะสีหน้าไม่ค่อยดี กระซิบคุณหญิงนิ่มว่าคุณชายจันทร์ให้ออกไปพบ จิตสุภางค์งงว่าเกิดอะไรขึ้น ประกายดาวบอกว่ากลับบ้านแล้วจะเล่าให้ฟัง...คุณหญิงนิ่มขำไปประคบรอยแดงที่ หน้าให้จันทรภานุไป สมน้ำหน้าที่สร้างเรื่องออกไป

“หญิงว่าป่านนี้คุณนันต้องเอาเรื่องพี่ชายกับพี่ดาวไปฟ้องหม่อมป้าแล้วแน่ๆ เตรียมตัวเอาไว้เถอะค่ะ” ...จันทรภานุกังวลใจขึ้นมาทันที

ooooooo

1 comments:

Followers